“กองอสังหาฯ-อินฟราสตรัคเจอร์” แม้ผลงานจะฟื้นตามตลาด...แต่ความน่าสนใจก็ยังไม่เพียงพอ !!!

“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์-อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์” ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนรวมที่นักลงทุนหลายต่อหลายคนมีติดพอร์ตไว้ไม่มากก็น้อย เพราะถือเป็นหนึ่งในไม่กี่กลุ่มสินทรัพย์ที่มีความผันผวนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นและยังสร้างรายได้ระหว่างการถือหน่วยลงทุนได้เป็นอย่างดี
เปรียบเสมือนเป็น “หุ้นปันผล” ตัวหนึ่ง แต่ในปีผ่านมานั้น สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลเชิงลบต่อตลาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน คงไม่พ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อัตราการเช่าและรายได้ลดฮวบลง
จึงทำให้ราคาหน่วยลงทุนปรับลดตัวลงมาอย่างเห็นได้ชัดจากผลกระทบดังกล่าว แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายเสมอไปเพราะก่อนหน้าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้น
ราคาหน่วยลงทุนกลุ่มดังกล่าวก็ถือว่าปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงหรือผู้เชี่ยวชาญการลงทุนบางแห่งเองก็มองว่าค่อนข้างแพงเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อราคาที่ถูกปรับตัวจากช่วงก่อนหน้านี้ จึงทำให้นักลงทุนบางรายมองว่านี่อาจจะเป็นโอกาสการลงทุนได้อีกครั้งในสินทรัพย์ดังกล่าว
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงอยากถือโอกาสนำมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มาแชร์ให้แก่ผู้ที่กำลังสนใจในสินทรัพย์ดังกล่าวกันในครั้งนี้
“ราคาสินทรัพย์” ฟื้นตัวจากก่อนหน้านี้...แต่ดันให้ราคาบางกองกลับมาแพงอีกครั้ง
โดย “คมสัน ผลานุสนธิ” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองว่า จากโมเมนตัมของหน่วยลงทุนสินทรัพย์กองอสังหาริมทรัพย์และอินฟราสตรัคเจอร์ในประเทศที่ปรับตัวขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการปรับตัวลงไปที่ค่อนข้างลึกจากปัจจัยกดดันก่อนหน้า จึงเป็นเพียงการฟื้นตัวขึ้นเท่านั้น
(คมสัน ผลานุสนธิ)
“จึงเป็นธรรมดาที่จะเห็นนักลงทุนบางกลุ่มเข้าไปซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงมาต่ำมากๆ ซึ่งกองรีทบางกองเองในแง่ปัจจัยพื้นฐานนั้น แม้ว่าราคาจะมีปรับตัวลดลงและฟื้นตัวกลับมานั้น แต่ระดับราคาหน่วยลงทุนก็ยังค่อนข้างสูงหรือมีราคาที่แพง เมื่อเทียบกับ Price to Net Asset Value (P/NAV)”
“กองรีท” โอกาสขาขึ้นต่อเป็นไปได้ยาก...แต่โอกาสลงก็ไม่มีเช่นกัน
โดยมองว่าทิศทางของตลาดกองรีทในประเทศนั้น คาดการณ์ว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ที่จะให้กลับมาเป็น “ขาขึ้น (Bull Cycle)” แต่ก็จะไม่มีทิศทางที่จะเป็น “ขาลง” ได้เช่นกัน เนื่องจากความน่าสนใจของสินทรัพย์ยังไม่สามารถสู้กับหุ้นไทยบางตัวที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี จากปัจจัยพื้นฐานและการได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“กองรีท” ความน่าสนใจยังสู้หุ้นไทยไม่ได้...แม้มีธีมเปิดเมืองมาช่วยหนุน
ส่วนในระยะกลางและระยะยาว หากมีปัจจัยอย่างการเปิดเมืองและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวนั้นหลังจากมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ก็อาจทำให้ราคาของกองรีทขยับได้ไม่มากนัก เนื่องจากราคาสินทรัพย์ในปัจจุบันได้รับรู้ถึงปัจจัยดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว
“อยากแนะนำนักลงทุนหากอยากจะลงทุนใน ‘ธีมการเปิดเมือง (Re Opening)’ นั้น ให้ไปลงทุนใน ‘หุ้นสามัญ’ ที่ได้รับประโยชน์โดยตรง อย่างกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม กลุ่มบริโภค ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า ส่วนมุมมองการลงทุนในกองรีทนั้นเราได้ให้เป็น neutral”
แต่อย่างไรก็ดีราคาที่ปรับตัวลดลงนั้น ก็มองได้เป็นการกลับสู่สมดุลของราคาที่ควรจะเป็น หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงมากๆ หรือ Over Shoot จากการไหลของเงินทุนที่เข้าไปแบบผิดปกติ
“พิษ COVID-19”…ฉุดผลงาน-ราคาสินทรัพย์กองรีทลง
ฟาก “ธิดาศิริ ศรีสมิต” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย จำกัด ได้ให้มุมมองว่า กองรีทในตลาดประเทศไทยนั้น ในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบายของไวรัส COVID-19 จนทำให้อัตราการเช่าและรายได้หายไปบางช่วงจนทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อปัจจัยดังกล่าว จนสะท้อนมายังราคาสินทรัพย์ให้ปรับตัวลดลงเป็นจำนวนมาก
(ธิดาศิริ ศรีสมิต)
แม้ราคาจะลง…แต่ผลตอบแทนก็ยังมีโอกาสไปต่อได้
ซึ่งจากการปรับตัวของสินทรัพย์จนถึงปัจจุบันนั้น ได้ทำให้ “Value ratio” กลับมาสู่ระดับที่น่าสนใจ ซึ่งจากการคาดการณ์ของผลตอบแทนของสินทรัพย์นั้นจะอยู่ที่ 6% รวมยีลด์และแคปปิตอลเกน แต่ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้เช่นกัน จากการเปิดประเทศเป็นไปตามที่คาดการณ์
“มุมมองการลงทุนในสินทรัพย์อย่าง ‘กองรีท’ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้ได้ว่าก็คือการเปิดเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดทุนของประเทศไทยนั้นกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าบางสินทรัพย์จะรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปพอสมควรแล้วก็ตาม”
