วอลุ่มแสนล้านกำลังดันโบรกเกอร์ฟื้น KGI อาจเป็นผู้ที่ได้รับผลดีที่สุด !!

ธุรกิจโบรกเกอร์ที่ผ่านมาเหมือนต้องคำสาป จากที่เคยเป็นกลุ่มมนุษย์ทองคำในอดีต โบนัสปีละ 24 เดือน แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงจากค่าคอมมิชชั่น การแย่งชิงเจ้าหน้าที่การตลาด แถมยังโดนการเข้ามาของดิจิตอลเข้ามาดิสรัปชั่น อย่างหนัก แต่ตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมาถึงต้นปี 2564 ธุรกิจโบรกเกอร์กลับมามีความหวังที่จะกลับมาสู่ยุครุ่งเรือง เมื่อมูลค่าการซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้นมากกว่าแสนล้านบาท อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจโบรกเกอร์ ให้กลับมาสดใส
มูลค่าการซื้อขายทะลุแสนล้าน !!
ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคึกอีกครั้งทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ปัจจัยสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1 ความคืบหน้าของวัคซีน COVID – 19 ที่เป็นความหวังของมวลมนุษยชาติที่จะรักษาเจ้าโรคร้ายชนิดนี้ และ 2 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ โจ ไบเดน ได้รับตำแหน่ง เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลดี และตลาดหุ้นไทยก็มีความคึกคัก เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันวันเดือนธ.ค. อยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท และในเดือนม.ค. นี้ สูงถึง 1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
ความคึกคักนี้ทำให้ธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ หรือที่ถูกเรียกว่า โบรกเกอร์ ที่ห่อเหี่ยวมาหลายปีให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ที่ธุรกรรมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาโบรกเกอร์มีการปรับตัวค่อนข้างมาก จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ DW และบล็อกเทรด
โดยบริษัทหลักทรัพย์ที่ดูโดดเด่นมากที่สุดในเวลานี้ คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2562 มีส่วนแบ่งทางการตลาด 2.97 % อันดับที่ 15
2563 มีส่วนแบ่งทางการตลาด 3.82 % อันดับที่ 9
2564 มีส่วนแบ่งทางการตลาด 7.98 % อันดับที่ 2
ในขณะเดียวกัน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มีการกระจายธุรกิจที่มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการบุกธุรกิจด้าน DW ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 1 โดย นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เคยให้ข้อมูลกับ WEALTHY THAI ว่า ในปี 2563 นั้น KGI ประสบความสำเร็จอย่างมาก ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของ DW เป็นอันดับที่ 1 ของอุตสาหกรรมจากจุดเด่นของการออกผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็ว และได้รับความเชื่อถือจากผู้ลงทุนอย่างมาก
บล.ทรีนีตี้ เชื่อเป็นปีที่สดใส
สำหรับ บล.ทรีนีตี้ มองว่า ธุรกิจโบรกเกอร์น่าจะสดใส แต่อาจไม่มากอย่างที่หลายคนคิด เพราะว่าการแข่งขันค่าคอมมิชชั่นยังรุนแรงอยู่ นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ เผยว่า ธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้ มองว่าน่าจะสดใสมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโบรกเกอร์ที่เน้นให้บริการนักลงทุนรายบุคคล โดยที่ผ่านมาภาพของมูลค่าการซื้อขายก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ในระดับ 1 แสนล้านบาท ซึ่งก็ทำให้ธุรกิจโบรกเกอร์หายใจได้สะดวกมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามแม้จะดูทิศทางว่าสดใส แต่อาจจะไม่มากเหมือนที่หลายคนคาดคิด ต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันในธุรกิจนั้นยังสูง ทั้งค่าคอมมิชชั่นที่อยู่ในระดับที่ต่ำมากจริงๆ ดังนั้นก็ต้องติดตามว่าจะได้รับผลบวกอีกหรือเปล่า อย่างที่ผ่านมามีผู้เล่นในตลาดหลักทรัพย์หลายรายเน้นไปในด้านการออก DW ในช่วงต้นปีที่ตลาดผิดปกติก็เกิดปัญหาต้องรับผลขาดทุนไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นนอกจากมูลค่าการซื้อขายแล้วภาพของตลาดก็มีผลกับธุรกิจด้วย
ซึ่งในแผนของทรีนีตี้ ก็จะเน้นไปในเรื่องสินทรัพย์ดิจิตอลมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความสนใจในการระดมทุนผ่าน ICO ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่ทรีนีตี้ อยากเข้าไปมีส่วนร่วมในงานที่ปรึกษาด้านการะดมทุนมากกว่า